การฉายแสง LED (Light-Emitting Diode)
การฉายแสง LED สามารถช่วยดูแล ฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ปรับสภาพผิวให้ เรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย รักษาสิว และฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนกว่าวัย ทั้งยังสะดวกและปลอดภัย ใช้เวลาไม่นาน ไม่ก่อให้เกิดรอยแผล และไม่ต้องพักฟื้น หลังทำเสร็จสามารถออกไปทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
คุณสมบัติของแสง LED แต่ละสี
การรักษาผิวด้วยแสง LED และเลเซอร์มีความแตกต่างกัน โดยการฉายแสง LED เปรียบได้กับเลเซอร์ความ เข้มข้นต่ำ มีความปลอดภัย ไม่มีอาการแสบร้อนหรืออาการปวด ไม่ทําให้ผิวไหม้ หรือผิวบาง ขณะที่การทำเลเซอร์ผิวหนังจะใช้คลื่นแสงที่มีพลังงานเข้มข้นสูง มีจุดโฟกัสที่แม่นยำ ซึ่งปัจจุบันการทำเลเซอร์ผิวมีหลากหลายรูปแบบ เหมาะกับการนำมาใช้แก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไป เช่น ปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น ลดรอยดำ ริ้วรอยบนใบหน้า รักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ หลุมสิว โดยจำนวนครั้ง ความถี่ และผลของการรักษาจะแตกต่างกันไปตามปัญหาผิวของแต่ละบุคคล
การฉายแสง LED บำบัดผิวด้วยแสงสีต่างๆ เช่น แสงสีฟ้า แสงสีเหลือง และแสงสีแดง มีคุณสมบัติเด่นในการ แก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน เช่น ปัญหาสิว รอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็น ผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมทั้งกระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอย ฟื้นฟูผิวดูอ่อนเยาว์ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิว เห็นผลผลชัดเจนตามระยะเวลา ความสม่ำเสมอในการทำ และการดูแลตัวเองหลังทำ
ผลการรักษาขึ้นอยู่กับระยะเวลา และความสม่ำเสมอในการรักษา ควรทำต่อเนื่องกัน 4-8 สัปดาห์ขึ้นไป โดย แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาจากปัญหาผิวและสภาพผิวของที่เป็นอยู่ของแต่ละบุคคล โดยส่วนใหญ่แล้วจะเห็นผลเมื่อรับการรักษาต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไป เช่น ในกรณีสิวอักเสบ พบว่าสิวอักเสบค่อยๆ ยุบตัวลง ใบหน้ามีความมันน้อยลง รอยสิวดูจางลง